มาต่อเรื่อง Virtual Dj กันต่อเลยนะครับ
ต้องขอขอบคุณ Skin Upkajuy Thai Fixed 4.1r2 Internal Mixer อีกเช่นเคยนะครับที่ผมใช้เป็นตัวอย่างในการแนะนำครั้งนี้ครับ
Option
หลายๆ คนที่ใช้งาน Virtual Dj อาจยังไม่เข้าใจ หรือว่า ใช้งานโปรแกรมที่เครื่องให้มาไม่ครบทั้งหมด
วันนี้ผมเลยอยากจะแนะนำเรื่อง Option ของ Virtual Dj กันนะครับ
1. การเข้าสู่โหมด Option
การเข้าสู่โหมด Option โดยการเลือกปุ่มที่มีคำว่า Config หรือบาง Skin อาจใช้คำว่า Set นะครับ
(ดูรูป การเข้าสู่โหมด Config ประกอบนะครับ)
2. เมื่อเข้าสู่โหมด Option แล้ว ก็จะมี Pop up Window ขึ้นมานะครับ
2.1 โหมดแรก Sound Set Up โหมดนี้เข้าใจง่ายครับเพราะว่ามีภาพประกอบ
(แต่ว่าบางโหมดจะไม่สามารถใช้งานได้นะครับ ต้องเป็น Version Pro เท่านั้นครับถึงจะใช้ได้)
Input เป็นการเลือกหรือไม่เลือกว่าเราจะใช้ Time code หรือ เครื่องมือในการมิกต์หรือไม่
Output เป็นการเลือกว่าเราต้องการที่จะให้เสียงออกมาในช่องทางใหนบ้าง
Sound Cards เป็นการเลือกว่า Sound Card ของเราเป็นแบบใหน
ส่วนด้านล่างเป็นช่องต่อเนื่องจากการเลือก Output และ Sound Card ว่าเราต้องการให้ Card ตัวใหนขับเสียงออกมารูปแบบใด
(อาจและอ่านแล้วงงสักหน่อยลองดูภาพประกอบที่โปรแกรมให้มารับรองว่าเข้าใจแน่นอนครับ)
2.2 Option หรือ General
General Option ประกอบไปด้วยAuto Update : เปิด, ปิด การให้โปรแกรมตรวจสอบ Version ใหม่โดยอัตโนมัติ (ใช้ของดูดมาก็ระวังหน่อยนะครับฮิฮิ)
Charts : เป็นการเปิด, ปิด การนับจำนวนครั้งของเพลงที่เล่นจากผู้ใช้งาน Virtual Dj ทั่วโลกว่าเพลงใหนมีผู้เล่นมากที่สุด ดูข้อมูลเพลงได้จาก
http://www.virtualdj.com/Tooltip : เปิด, ปิด การให้โปรแกรมแสดงข้อความแนะนำเมื่อเมาท์อยู่บนปุ่มกด
MSN : เมื่อเราใช้งาน Virtual Dj จะมีโปรแกรมหนึ่งซื่อว่า Crash-Guard (ไม่ใช่ชื่อเพลงของพี่แบงค์นะ ปัดโธ่ เดี๋ยวปัดเหนี่ยวเลย.....)
มันจะทำหน้าที่ในการตู้คืนและป้องกันการ Error ของ Software อื่น ๆ รวมทั้ง Operation System (OS)
โดยมันจะทำให้ Software อื่นที่เปิดใช้งานควบคู่ไปกับ Virtual Dj แล้วเกิดการ Error เงียบ รวมทั้งเสียงของ OS ด้วย
เช่นเสียง คลิกเมาท์ แต่ว่า Version นี้ได้เพิ่มการใช้งานของขา Chat ให้ Mix&Mouth ไปพร้อมกันได้ โดยไม่ทำให้ Virtual Dj สะดุดแต่อย่างใด
(ไม่แน่ใจว่าให้เพื่อนเราฟังเพลงที่เรามิกซ์ ไปพร้อมกับการ Chat ได้หรือไม่แต่เอาเถอะใครที่อยากให้ชาวโลกได้รับรู้
และอยากประกาศตัวเป็นเจ้ายุทธจักรในการมิกซ์เพลงเอาไว้จะบอกวิธีการในโอกาศหน้าก็แล้วกันนะครับ)
Max Load : เป็นการกำหนดระยะเวลาสูงสุดของเพลงที่ให้เครื่องของเราจดจำ เพื่อที่จะทำให้เราเล่นเพลงที่มีขนาดยาวโดยไม่กินแรงหน่วยประมวณผลของคอมพิวเตอร์
Read ID3 Tags : ผมได้เข้าไปในเว็บไชต์
http://www.virtualdj.com/ อยู่หลายที่เหมือนกัน เห็นได้ว่ามีผู้ใช้หลายคนทั่วโลกนิยมใช้ Virtual Dj กันมาก และมีคำถามและข้อแนะนำจากเหล่าผู้ใช้งานทั่วโลกว่า
“ทำไมยูไม่ให้ Virtual Dj อ่าน ID3 Tags ได้ละ ยูรู้ใหมว่าฉันเบื่อและไม่อยากแก้ไขชื่อเพลงที่มีเป็น หมื่น ๆ เพลงของฉันในเครื่องคอมพิวเตอร์
(พ่อเอ้ย....แบ่งผมโหลดของพ่อสักเพลงสองเพลงบ้างเถอะ...) ถ้ายูไม่รีบแก้ไข ไอ คงต้อง Uninstall โปรแกรมของยูแน่”
ทางโปรแกรมเมอร์ของ Virtual Dj ก็ตอบกลับมาว่า ได้คราบ.....จะจาดให้ครับ (กรุณาทำเสียงเหมือนโฆษณาดีเทค)
นั้นเป็นเพราะว่า Virtual Dj มี Format การชื่อเพลงเป็น (ชื่อศิลปิน) ชื่อเพลง.mp3 และ ชื่อศิลปิน – ชื่อเพลง.mp3 ครับบางคนเห็นว่ามันไม่เห็นเป็นไรเลยของฉันก็อ่านได้
ใช่ครับ แต่บางเพลงทีปัญหาคือ ชื่อเพลงขึ้นก่อนศิลปิน หรือ ชื่อเพลง(นักร้องรับเชิญ) หรือ Version ของเพลงเช่น (Remix), (Radio Edit) อะไรแบบเนี้ยครับมันเลยทำให้มีปัญหาเวลาหาชื่อเพลง
ผู้ใช้ส่วนใหญ่หาทางออกด้วยวิธี หาโปรแกรมเปลื่ยนชื่อเพลงมาแก้ไขครับซึ่งเป็นวิธีมี่ดีทีเดียวครับ แต่ Virtual Dj ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจใส่โหมด ID3 Tags ให้ Virtual Dj อ่านได้
แต่แค่ ชื่อเพลงกับComment เท่านั้นนะครับ และVirtual Dj ได้เตื่อนไว้ว่ามันจะทำให้การค้นหาเพลงช้าลง ผมได้ลองOption นี้แล้วมันก็ช้าลงนะครับ(นิดดดด....หน่อย)
แต่มันก็ยังไม่ค่อยWork เท่าไหร่ครับ
Write VDJ Tags : เป็นการเลือกให้ Virtual Dj เขียน VDJ Tags ลงไปบนเพลงของเราหรือไม่ ข้อดีก็คือว่าเราสามารถเอาเพลงของเราไปใช้กับเครื่องอื่นได้โดยที่มันจะจดจำ
Cues, Comment, และข้อมูลอื่น ๆ ให้โดยไม่ต้องทำใหม่
Security : เป็นการป้องกันและให้โปรแกรมถามเราก่อนว่า “คุณแน่ใจแล้วหรือ” ก่อนที่เราจะทำอะไรลงไปอย่างผิด ๆ เช่น เปลื่ยนเพลงขณะที่เพลงกำลังเล่นอยู่
หรือปิดโปรแกรมในขณะที่ปิดเพลงอยู่ เพื่อป้องกันความผิดพลาดของเราเอง (เปิดไว้ดีกว่านะผมว่า....กันไว้ดีกว่าแก้)
Scrolling : เป็นการเลือกให้หน้าต่างแสดงจังหวะ (Rhythm Window) แสดงคลื่นเสียง (Waveform) ไปทิศทางไหน จากซ้ายไปขวาหรือจากขวาไปซ้าย
Disc : เป็นการเลือกความเร็วในการหมุนของ Turntable เสมือน บนหน้าจอว่าให้มีความเร็วเท่าใด (ความเร็วปกติจะตั่งไว้ที่ 33 1/3)
Pitch Range : เป็นการเลือกขอบเขตการตั่งค่าระดับเสียง Pitch อาจเรียกได้ว่าการตั่งค่าการปรับระดับความเร็วของเพลงให้มีระยะขอบเขตเท่าใด
เพื่อป้องกันเพลงเพี้ยน หรืออื่นๆ โดยมีให้เลือก 3 ระดับคือ -8% ถึง+8%, -12% ถึง+12%, -34% ถึง+34%
FAME Algorithm Option ส่วนนี้จะเป็นการตั้งการทำงานของระบบมิกซ์อัตโนมัติ (Auto Mix) และการใช้งานทั่วไปนะครับBPM Engine : ให้เลือกระหว่าง Techno/House ซึ่งวิเคาระห์หา BPM จากจังหวะการเคาะหรือการตีของเพลง ส่วนAny Music วิเคาระห์หา BPM จาก
ทำนองเพลงเหมาะสำหรับเพลงพวก Rock n’ Roll หรือ Salsa โดยการวิเคาระห์แบบ Any Music จะใช้ทรัพยากรของเครื่องมากกว่า
Auto BPM : เลือกเพื่อให้ Virtual Dj ปรับ BPM ให้โดยอัตโนมัติ
Auto Gain : เลือกเพื่อให้โปรแกรมจัดการความดังของเพลงที่ไม่เท่ากัน เมื่อเลือก Always 0dB โปรแกรมจะจัดการปรับให้เสียงอยู่ที่ 0dB, เมื่อเลือก Always Match
โปรแกรมจะทำให้เสียงของทั้งสอง Deck มีความดังเท่ากัน, เมื่อเลือก Disable โปรแกรมจะไม่ทำการได ๆ กับเสียงของเพลงนั้น
Auto Pitch-Reset : เป็นการปรับให้ Pitch เป็น 0% ทุกครั้งเมื่อโหลดแทรกใหม่
Auto EQ-Reset : เป็นการปรับให้ EQ ทั้ง 3 Band ตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่โหลดแทรกใหม่
Auto Cue : กำหนดให้โปรแกรม เริ่มตั้งเพลงที่ Cue แรกทุกครั้งที่โหลดแทรกใหม่ เมื่อไม่ได้กำหนดค่า Cue โปรแกรมจะตั้งเพลงให้ที่ Beat แรกทุกครั้งเมื่อเลือกโหมด Always
Disengage Beat Lock : ปล่อยให้ Beat Lock เป็นอิสระทุกครั้งเมื่อโหลดแทรกใหม่
Force Fade : เป็นเครื่องมือในการต่อเพลงแบบอัตโนมัติ Auto Mix อีกแบบหนึ่งใช้งานร่วมกับ Fade Length (ที่จะกล่าวถึงต่อไป)
ใช้ในการต่อเพลงแบบไม่คำนึกถึงความเร็วเพลงและห้องในการมิกต์ (มิกต์แบบร้านอาหารอะครับ ขอย้ำ ร้านอาหารนะครับไม่ใช่ คลับ) คือลด Volume แล้วเปิดอีกเพลง หรือ shot เพลงนะครับ
(เมื่อเปิดโหมดนี้ การมิกซ์เพลงอัตโนมัติจะไม่สามารถมิกซ์แบบอิง Tempo กับ Crossfader ได้นะครับต้องปิดก่อน)
Fade Length : เลือกเวลา,ความยาวเพลง ที่เราจะมิกซ์ให้มันซ้อนทับกัน
Crossfader : เลือกลักษณะของ Crossfader ที่จะใช้งาน
2.3 Performance
เป็นการตั้งค่าคุณภาพของเสียงนะครับ
2.4 Skin
เอาไว้เลือก Skin ต่าง ๆ มาใช้งานนะครับ สำหรับใครที่ต้องการจะโหลด Skin จากทาง Website จะต้องสมัครสมาชิกและที่สำคัญจะต้องใช้ Virtual Dj ตัวจริงเสียงจริงนะครับ(หรือจะลองเสี่ยงหา Serial Number ไปลองดูก็ได้นะครับแต่ผมไม่กล้า ฮิฮิ) อ้อเขาบอกว่าคุณสามารถทำเองก็ได้ง่ายนิดเดียวโดยดูรายละเอียดที่ Website ครับ (อยากลองเหมือนกันแต่ทำไม่เป็น ใช้ Skin Upkajuy Thai Fixed 4.1r2 ดีกว่าเนอะ)
2.5 Keyboard Shortcut
เป็นการตั้งค่า Shortcut ของคุณเองได้และตั้งแต่ เมื่อใช้งานร่วมกับ MIDI โหมดนี้ละครับ (สำหรับการตั่งค่า Shortcut นี้ผมขอละไว้นะที่นี้นะครับเพราะว่าเคยอ่านเจอในบอร์ดมีคนเคยสอนเอาไว้แล้ว ไปหาอ่านดูละกันนะครับ)
2.6 Network
ตัวเลือกนี้สามารถทำให้คุณ Mix เพลงได้หลาย ๆ Deck โดยการ Synchronization Computer หลาย ๆ เครื่องรวมกัน (Network Synchronization)หรือว่าพี่ ๆ ที่เริ่มแก่ตัว หูตาฝ้าฟาง ต้องการที่จะใช้หลายหน้าจอก็ทำได้ แต่ต้องใช้ Skin แบบ Multi-Instance (โดยเลือก Local Synchronization)โดยการทำแบบนี้ปุ่ม Sync หรือ Beat Lock จะทำงานร่วมกันทั้งหมด
2.7 Remote Control
โหมดนี้จะเป็นการเลือกการใช้งาน โดยการต่อ Console ภายนอก เช่น Hercules Dj Console, ของแพงอย่างNumark iCDX หรือ Turntable ไฮโซ อย่าง XP10 เพียงแต่ว่าเพื่อน ๆ ต้องใช้ Version Pro เท่านั้นนะ Version ธรรมดาจะใช้ง่านได้แต่ Hercules Dj Console เท่านั้นนะจ๊ะ (เห็นว่ามีเพื่อน ๆ บอกว่า Beringer 2000 ใช้งานได้แต่ไม่ครบทุกปุ่ม น่าสนใจเหมือนกันนะครับทั้งหน้าตาและค่าตัว) อ้อเกือบลืมไปแล้ว เพื่อน ๆ อยากจะ Scratch แผ่น (เสมือน) แบบไม่ต้องใช้เมาท์ถูกับพื้น ก็ดูที่หัวข้อ Webcam นะครับโดยการใช้ Webcam จับความเคลื่อนไหวของมือเรา (ผมใช้ Notebook. Webcam อยู่ด้านบนผมเลยใช้หัว Scratch แทน ฮิฮิ)
2.8 Codecs
เป็นข้อมูลบอก Format File ที่ Virtual Djรองรับ แก้ไขและเพิ่มใหม่ได้ครับ
2.9 Global Database (Napster)
เป็นการหาเพลงใหม่จาก Napster
2.10 Video
มิกซ์ Music Video ตั้งแต่ต่าง ๆ เช่นแสดงชื่อเพลง อื่น ๆ
2.11 Info
เป็น Link เข้าไปที่ Website ของ Virtual Dj เพื่อ Download และเช็คโปรแกรม (ขอบอกว่าอย่าเสี่ยง)
ทั้งหมดนี้เป็น Option ของ Virtual Dj อาจจะยาวไปสักนิดแต่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนำไปใช้ได้จริง ผมขอออกตัวว่าไม่ได้เก่ง และยังต้องการคำแนะนำต่าง ๆ อีกเยอะครับ ถ้ามีข้อมูลใหนตกหล่นไปหรือผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
เรื่องของ Virtual Dj ยังไม่หมดนะครับยังเหลืออีกหลายเรื่อง เช่น การ Set BPM ที่ไม่ตรง Beat,
การ Recording, การใช้และอัด Simple, การใช้ Effect, และอื่น ๆ ผมจะนำมาแนะนำให้ใหม่โอกาศหน้านะครับ ถ้ายังไม่เบื่อกันซะก่อน ฮิฮิ
อ้อ.....ข้อมูลที่เป็นฐานในการเขียนของผมนะครับมาจาก Atomix Virtual Dj, Dj Mix Station,Website
http://www.virtualdj.com/, และจากประสบการณ์นะครับ หวังว่าเพื่อน ๆ ที่ใช้ Virtual Dj Version ที่ต่างกันคงจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นและเข้าใจได้มากขึ้นนะครับ .
|
|